การผ่าตักและระงับความรู้สึกแบบผู้ป่วยนอก
หมายถึง การผ่าตัดที่ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้หลังเสร็จการผ่าตัดภายในวันเดียว ยกเว้นกรณีที่แพทย์ลงความเห็นให้ได้รับการดูแลต่อเนื่องที่โรงพยาบาล มีข้อดีทั้งด้านจิตใจที่ผู้ป่วยรู้สึกอุ่นใจ ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ร่วมกับผู้ป่วยเพราะมีข้อจำกัดจากชนิดการผ่าตัด การอาศัยความรู้ความเข้าใจและการปฏิบัติตนอย่าถูกต้องของผู้ป่วยและญาติอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ที่อาจจะเกิดขึ้น
ทีมวิสัญญีเป็นผู้ให้ระงับความรู้สึก ซึ่งโดยทั่วไปสามารถให้การระงับความรู้สึกได้ 2 วิธี คือ
- การดมยาสลบ เป็นวิธีที่ทำให้ผู้ป่วยหมดสติ ไม่รู้สึกตัวและไม่เจ็บตลอดการผ่าตัด
- การทำให้ชา วิธีนี้ผู้ป่วยจะได้รับยาชาโดยไม่สลบแต่ถ้าผู้ป่วยยังมีความกังวลก็จะได้รับ ยาให้หลับ พเอลดความกังวลหรือความเครียดในระหว่างการผ่าตัด หังผ่าตัดผู้ป่วยอาจรู้สึกชาบริเวณที่ทำผ่าตัดอีกประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
ข้อแนะนำและควรปฏิบัติเมื่อจะมารับการผ่าตัด
ก่อนตัดสินใจรับการผ่าตัด ผู้ป่วยและญาติควรมีข้อมูลทราบชัดเจนว่าป่วยเป็นโรคอะไร ผ่าตัดอะไร มีความจำเป็นอย่างไรในการผ่าตัดและผลที่คาดว่าจะได้รับ ข้อแทรกซ้อนและทางเลือกอื่น ควรปรึกษษแพทย์เมื่อมีข้อสงสัย เพื่อคลายความวิตกกังวลเมื่อตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด ควรให้ข้อมูลและปฏิบัติตน ดังนี้
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ รวมทั้งยาสมุนไพร การแพ้ยาหรือสารทุกชนิด การผ่าตัดในอดีตและปัญหาสุขภาพอื่นๆ กรุณาปรึกษาแพทย์ว่า จะให้รับประทานยาหรือฉีดยาที่ใช้ประจำได้หรือไม่ ในวันที่ทำผ่าตัด
- ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยหญิง ถ้าตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ
- ก่อนวันทำผ่าตัด ถ้าเป็นหวัดหรือมีไข้ หรือมีอาการผิดปกติอื่น กรุณาแจ้งแผนกที่นัดผ่าตัด
- ควรพาญาติที่บรรลุนิติภาวะ สามารถรับผิดชอบและดุแลผู้ป่วยได้มาที่โรงพยาบาลกับผู้ป่วยและมีผุ้ดูแลที่ บ้านอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังผ่าตัด
- ควรงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
- ควรงดเครื่องดื่มหรือสิ่งมึนเมา อย่างน้อย 1 วันก่อนผ่าตัด
- ควรงดอาหารทุกชนิดและน้ำดื่มตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปให้งดก่อนเวลาผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันตรายจากการสำลัก
- สวมเสื้อผ้าที่หลวมสบายและรองเท้าส้นเตี้ย มาโรงพยาบาลในวันที่ทำการผ่าตัด ถ้าเป็นการทำผ่าตัดบริเวณมือ แขน เท้า หรือขา ในสวมเสื้อหรือกางเกงที่แขนเสื้อหรือกางเกงหลวมกว้าง เพื่อให้บริเวณที่ทำผ่าตัดซึ่งมีผ้าปิดแผลหรือผ้าพันแผลอยู่สามารถสอดผ่าน เข้าไปได้
- ถอดฟันปลอมที่ถอดได้ ถ้ามีฟันโยกควรแจ้งให้ทีมวิสัญญีทราบ
- ถอดแว่นตาหรือถ้ามีเลนส์ตาควรแจ้งทีมวิสัญญีทราบ
- ไม่ควรนำของมีค่ามาโรงพยาบาล ไม่สวมแหวน ต่างหู สร้อยคอ และสร้อยข้อมือมาโรงพยาบาล
- ไม่ควรทาเล็บ เพราะสีของเล็บโดยธรรมชาติจะช่วยให้แพทย์ทราบถึงสาหุโดยทั่วไปของผู้ป่วยได้
- ถ้าเป็นการผ่าตัดบริเวณใบหน้า ไม่ควรแต่งหน้ามาโรงพยาบาล เพราะเครื่องสำอางค์อาจทำให้เกิดการติดเชื้อของแผลผ่าตัดได้
- คืนก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยควรนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงไม่อ่อนล้าจะช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็ว
- อาด เช้าวันผ่าตัดทำความสะร่างกายก่อนมาโรงพยาบาลและมาถึงก่อนเวลานัด 1 ชั่วโมง
เมื่อถึงเวลาผ่าตัด
- เมื่อเจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยไปห้องผ่าตัด ญาติอาจตามไปส่งและให้กำลังใจถึงหน้าห้องผ่าตัด แล้วอาจกลับไปรอที่ห้องผุ้ป่วยหรือสถานที่ที่เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อได้ สำหรับผู้ป่วยเด็ก ทีมวิสัญญีอาจให้ผู้ปกครองเข้ามาส่งผู้ป่วยถึงในห้องผ่าตัด
- เมื่อใกล้เวลาผ่าตัดเจ้าหน้าที่จะนำผู้ป่วยไปในห้องผ่าตัด เมื่อพร้อมทีมวิสัญญีจะติดอุปกรณ์ เพื่อตรวจชีพจร วัดความดันโลหิต วัดปริมาณออกซิเจนในเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และให้น้ำเกลือทางหลอดเลือดดำแก่ผู้ป่วย เพื่อเป็นทางให้สารน้ำและยานำสลบหรือยานอนหลับ และจะคอยดูแลผู้ป่วยในระหว่างการสลบอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
- หลังผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลต่อในห้องพักฟื้นจนกว่าอาการทั่วไปจะปกติ ไม่มีปัญหาเลือดออกจากแผลผ่าตัด ไม่คลื่นไส้ อาเจียน หรือเจ็บปวดทรมาน
- เมื่อผู้ป่วยกลับจากห้องผ่าตัด ควรมีญาติดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยไม่รบกวนผู้ป่วย ห้ามปรับหรือเปลี่ยนอัตราการไหลของน้ำเกลือหรือออกซิเจน ถ้ามีความผิดปกติ เช่น ผู้ป่วยอาเจียน หารใจผิดปกติ เลือดซึมชุ่มแผล น้ำเกลือไม่ไหล หรือบริเวณที่ให้น้ำเกลือบวม ควรรีบแจ้งพยาบาลประจำหอผู้ป่วยทราบ ถ้าผู้ป่วยฟื้นดีและปวดแผลจะขอยาแก้ปวดได้
- เมื่อผู้ป่วยฟื้นดีเรียบร้อยจากการผ่าตัด สามารถลุกขึ้นเดินได้หรือฟื้นตัวมีสภาพเดิมเหมือนก่อนผ่าตัดและแพทย์อนุญาติ ให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ควรมีญาติพาผู้ป่วยกลับบ้าน ผู้ป่วยไม่ควรขับรถกลับบ้านเอง
- ก่อนกลับบ้าน ควรศึกษาและสอบถามวิธีการดูแลผู้ป่วย ทั้งเรื่องการรับประทานอาหารและยา ข้อจำกัดการทำกิจกรรมต่งๆรวมทั้งทราบกำหนดนัดพบแพทย์ครั้งต่อไป
- ควรทราบชื่อแพทย์ที่รักษาและหมายเลขโทรศัพย์ เพื่อติดต่อกรณีต้องการสอบถามหรือปรึกษาเมื่อมีปัญหา หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้ป่วย
เมื่ออยู่บ้าน
- ควรมีญาติที่มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่งผู้ป่วยกลับมารักษาได้ทันทีในกรณีที่มีปัญหา
- ควรมีญาติอยู่กับผู้ป่วยตลอดจนวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัด
- ห้ามขับรถหรือทำงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรเครื่องยนต์ จนถึงวันรุ่งขึ้นหลังผ่าตัด
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้บ้าง หากมีอาการรุนแรง โดยไม่บรรเทาลงหลังได้รับยารักษาหรือมีความผิดปกติที่แผล เช่น เลือดออก บวมร้อนบริเวณแผลมาก ปวดแผลมาก มีไข้ แผลเปียกและมีกลิ่นเหม็น ควรนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ก่อนนัด
- งดเครื่องดื่มหรือสิ่งมึนเมา 24 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด
- รับประทานยาตามแผนการรักษาและมาพบแพทย์ตามการนัดหมาย เพื่อติดต่อผลการรักษาต่อไป
|